มาคุยเรื่องสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์กันเถอะ

คำนิยามที่ชัดเจนของคำว่า “สุนัขจอมกระโดด” ก็คือ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สุนัขผู้เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข สุนัขพันธุ์นี้มีความอ่อนโยนมาก อีกทั้งมีอารมณ์ดีอย่างยิ่ง สุดยอดแห่งความเป็นมิตรและขี้อ้อนสำหรับทุกคนที่อยู่รอบตัว อีกทั้งจัดเป็นสายพันธุ์ที่มีความสามารถรอบตัวอย่างน่าทึ่ง โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของครอบครัว หรืออาจทำหน้าที่เป็นสุนัขค้นหาและกู้ภัยหรือทำงานเป็นสุนัขนำทางได้ด้วย เมื่อรวมเข้ากับขนสีทองสวยและรูปร่างที่ดูแข็งแกร่ง ก็ไม่น่าแปลกใจที่สุนัขพันธุ์นี้ได้รับความนิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลก

ชื่ออย่างเป็นทางการ: โกลเด้น รีทรีฟเวอร์

แหล่งกำเนิด: สกอตแลนด์

ลูกสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สองตัวนั่งกับแม่สุนัขในภาพขาวดำ
แนวโน้มของการมีน้ำลายไหล

ปานกลาง

ความเหมาะสมต่ออากาศอบอุ่น ต่ำ
ความต้องการในการดูแลขน ปานกลาง ความเหมาะสมต่ออากาศหนาว ปานกลาง
ระดับการผลัดขน สูง ความเหมาะสมต่อการเลี้ยงในอพาร์ตเมนต์ ต่ำ
แนวโน้มของการเห่า สูง ความสามารถในการอยู่ได้โดยลำพัง* ต่ำ
ระดับพลังงาน (สูง ต่ำ ปานกลาง) * ปานกลาง ความเหมาะสมกับครอบครัว* สูง
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ สูง

* เราไม่แนะนําให้ปล่อยสัตว์เลี้ยงอยู่โดยลำพังเป็นเวลานานๆ การมีคนหรือสัตว์อยู่ด้วยช่วยป้องกันความเครียดและลดพฤติกรรมทำลายข้าวของ โปรดขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ของคุณ

สัตว์เลี้ยงทุกตัวมีความแตกต่างกันแม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์เดียวกันก็ตามที คุณควรใช้ข้อมูลจำเพาะโดยสังเขปของสายพันธุ์เพื่อเป็นข้อบ่งชี้โดยทั่วไปเท่านั้น

เราขอแนะนําให้ฝึกและนำสัตว์เลี้ยงของคุณไปเข้าสังคม รวมถึงดูแลความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน (รวมถึงความต้องทางสังคมและทางพฤติกรรม) ของสัตว์เลี้ยงให้ดี เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี มีความสุข และมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์

ไม่ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้กับเด็กตามลำพัง

โปรดขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เพาะพันธุ์สัตว์หรือสัตวแพทย์ของคุณ

สัตว์เลี้ยงทุกตัวเข้ากับคนง่ายและชอบอยู่ร่วมกับคนหรือสัตว์ตัวอื่น แต่คุณก็อาจฝึกให้สัตว์เลี้ยงเรียนรู้ที่จะอยู่โดยลำพังได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โปรดขอให้สัตวแพทย์หรือครูฝึกช่วยเหลือคุณในประเด็นนี้

Inline Image 15
ภาพประกอบสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์สีน้ำตาลอ่อนจากด้านข้าง
ตัวผู้
1 m 56 cm - 1 m 61 cm ความสูง
30 kg - 34 kg น้ำหนัก
ตัวเมีย
1 m 51 cm - 1 m 56 cm ความสูง
25 kg - 30 kg น้ำหนัก

ช่วงวัยแรกเกิด วัยแรกเกิดถึง 2 เดือน
วัยลูกสุนัข อายุ 2 ถึง 15 เดือน
ช่วงอายุโตเต็มวัย 15 เดือนถึง 5 ปี
ช่วงอายุเริ่มสูงวัย 5 ถึง 8 ปี
ช่วงอายุสูงวัย 8 ถึง 18 ปี

สุนัขและลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์นั่งอยู่บนหญ้า

1/7

มาทําความรู้จักกับสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์กันเถอะ

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์นี้

ด้วยท่าทางที่สดใสและกระฉับกระเฉง คงยากที่จะเชื่อว่าสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์แรกเริ่มนั้นถูกเพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นสุนัขล่าเหยื่อ ทุกวันนี้ สุนัขค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความซื่อสัตย์และความจงรักภักดี ท่าเดินก้าวยาวๆ พร้อมแลบลิ้นและขนสีทองที่เปล่งกระกาย สุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ยังขี้เล่น มีบุคลิกที่ดูขี้อ้อน แม้จะโตเต็มวัยแล้วก็ตาม

กล่าวกันว่า สุนัขยังคงคุณสมบัติบางอย่างจากอดีตแห่งการเป็นสุนัขล่าสัตว์ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นที่รู้จักในด้านความสามารถในการเล่นกีฬาและการทำงานที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเก่งในการแกะรอยติดตามด้วย ด้วยเหตุนี้ ทีมค้นหาและกู้ภัยจึงมักใช้สุนัขสายพันธุ์นี้ในการตามล่าผู้สูญหาย ในเวลาเดียวกัน อุปนิสัยที่อ่อนโยนของสุนัขทำให้เหมาะกับการทำหน้าที่เป็นสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดหรือผู้พิการทางสายตา นอกจากนี้ สุนัขสายพันธุ์นี้ยังเป็นสุนัขบำบัดที่ดีเช่นกัน

สิ่งหนึ่งที่สุนัขเป็นไม่ได้แน่ๆ ก็คือสุนัขเฝ้าบ้าน อันที่จริง สุนัขสายพันธุ์นี้มักจะกระดิกหางใส่ผู้บุกรุกมากกว่าอะไรทั้งสิ้น!

ส่วนใหญ่แล้ว แม้ว่าโกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของครอบครัว เหมาะสำหรับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเมื่อได้รับการฝึกฝน สุนัขยังสร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับครอบครัวมนุษย์ และความรู้สึกหนึ่งเดียวร่วมกัน สุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์มักถูกอ้างถึงว่าเป็นหนึ่งในสามสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลกเช่นเดียวกับสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดและลาบราดอร์

ในแง่ของรูปลักษณ์ สุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีขนหนา กันน้ำและมีขนชั้นในแน่น สีอาจหลากหลายตั้งแต่สีทองอ่อนไปจนถึงเฉดสีเหลืองเข้ม และทุกสีที่อยู่ระหว่างนั้น สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิมคือมีความหนามาก และทนทานต่อองค์ประกอบต่างๆ และนี่หมายความว่าต้องการการแปรงขนค่อนข้างมากทีเดียว โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ยังเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีการผลัดขนค่อนข้างสูง

ด้วยภูมิหลังการเป็นสุนัขล่าสัตว์ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการการออกกำลังกายค่อนข้างมากทุกวันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง หรือการวิ่งไล่บอล การวิ่งไปเก็บสิ่งของตามชื่อรีทรีฟเวอร์และตามสัญชาตญาณธรรมชาติ สุนัขไม่ชอบอะไรมากไปกว่าการวิ่งไปเอาอะไรบางอย่างและนำกลับมาให้คุณ ดังนั้น ถ้าคุณชอบเล่นสนุกแบบนี้กับโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สุนัขจะเป็นแฟนหมายเลขหนึ่งของคุณ

สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ยืนบนหญ้าและดอกไม้สีเหลือง

2/7

ข้อเท็จจริง 2 ประการเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์

1. รีทรีฟเวอร์ 101

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2006 สโมสร Golden Retriever Club of Scotland จัดงานสังสรรค์สุนัขที่บ้านเกิดของสายพันธุ์นี้ ภายในงาน มีการถ่ายรูป และพบว่ามีสุนัข 188 ตัวซึ่งเป็นประวัติการณ์ของภาพถ่ายสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์จำนวนมากที่สุดในภาพถ่ายเดียว

2. อาหารเย็นของสุนัข 

นี่คือสายพันธุ์ที่เอ็นจอยอีทติ้งเป็นที่สุด ผลลัพธ์ก็คือ สุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์อาจเสี่ยงต่อการมีน้ำหนักมากเกินไป ดังนั้น สิ่งสำคัญคือพยายามให้ขนมน้อยที่สุด และเลือกอาหารสุนัขที่มีคุณภาพสูงแต่ไขมันต่ำ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารที่ดีที่สุดสำหรับโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ โปรดดูด้านล่าง

3/7

ประวัติของสายพันธุ์

ที่มาของสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ย้อนหลังไปราวๆ 200 ปีมาแล้ว หากต้องการสำรวจเรื่องราวของสายพันธุ์ เราต้องเดินทางกลับไปยังสกอตแลนด์ในศตวรรษที่ 19 ที่นั่น เราจะพบกับขุนนางชาวสก็อตแลนด์ ชื่อว่าลอร์ดทวีดเมาธ์และสุนัขรีทรีฟเวอร์สีเหลืองของเขาที่ชื่อว่า Nous

ในปี ค.ศ. 1865 นักล่าที่กระตือรือร้นคนนี้ตัดสินใจว่าเขาต้องการสร้างสุนัขล่าสัตว์ที่สามารถรับมือกับภูมิประเทศที่ยากลำบากและสภาพอากาศที่รุนแรงได้ ดังนั้น เขาจึงผสมพันธุ์สุนัขรีทรีฟเวอร์สีเหลืองของเขากับสุนัขพันธุ์ทวีด วอเตอร์ สแปเนียลที่สูญพันธุ์ไปแล้ว และเพิ่มสายพันธุ์ไอริช เซทเตอร์และสายพันธุ์บลัดฮาวนด์ผสมกัน เมื่อเขาจดบันทึกสิ่งที่ค้นพบอย่างละเอียด เราก็ได้ประวัติฉบับสมบูรณ์ของโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ยุคแรกปรากฏตัวครั้งแรกที่อังกฤษในปี ค.ศ. 1908 และได้รับการยอมรับจากสโมสรสุนัขที่นั่นในปี ค.ศ. 1911 อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น สุนัขถูกจัดประเภทเป็น 'รีทรีฟเวอร์ – สีเหลืองหรือสีทอง' หลังการก่อตั้งสโมสร Golden Retriever Club ในปี ค.ศ. 1913 สุนัขจึงได้เปลี่ยนชื่อตามนั้น สุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจาก American Kennel Club ในปี ค.ศ. 1925

ปัจจุบัน สายพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก สิ่งที่น่าสนใจคือ แท้จริงแล้วมีโกลเด้น รีทรีฟเวอร์สามแบบที่แตกต่างกัน ได้แก่ สายพันธุ์อังกฤษ แคนาดา และอเมริกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างสายพันธุ์ สุนัขจึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์เดียวกัน

สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์นั่งหันหน้าหากล้องในภาพขาวดำ

4/7

ตั้งแต่หัวจรดหาง

ลักษณะทางกายภาพของสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์

1. หู

หูนุ่มฟู ปกติแล้วจะพับลงถึงระดับคาง

2. ใบหน้า

รูปปากยาวและสง่างาม จมูกสีดำที่โดดเด่น และดวงตาสีน้ำตาล

3. เส้นขน

มีขนสีทองเปล่งประกาย พร้อมด้วยคุณสมบัติเพิ่มเติมของขนชั้นในที่กันน้ำได้

4. ลำตัว

รูปร่างใหญ่ หลังแบน และเอวที่แข็งแรงและมีกล้ามเนื้อ

5. หาง

หางยกสูง ยาวโดยธรรมชาติ กระดิกหางเกือบตลอดเวลาและบ่อยครั้งที่จะสั่นตามไปด้วยทั้งตัว

สุนัขและลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์นั่งอยู่บนโขดหิน

5/7

ข้อควรระวัง

นี่คือข้อเท็จจริงในลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์บางประการ รวมถึงสุขภาพทั่วไปโดยรวมของสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ของคุณ

อย่าลืมตรวจหูเป็นประจำ

ท่ามกลางโรคทั่วไปที่อาจส่งผลต่อสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ มีโรคหนึ่งที่เรียกว่า 'หูชั้นกลางอักเสบ' หรือรู้จักในชื่อการติดเชื้อที่หู ซึ่งมักเกิดจากภูมิแพ้ และอาจทำให้สุนัขเจ็บปวดและคัน ในกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้น อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อการได้ยินได้เช่นกัน ดังนั้น ควรตรวจดูหูทุกสัปดาห์เพื่อหาสัญญาณของการติดเชื้อ ในกรณีที่มีสิ่งผิดปกติ ให้นำสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ของคุณไปพบสัตวแพทย์ ควรนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหูอย่างน้อยปีละสองครั้ง

สุนัขอาจพบปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อได้

เช่นเดียวกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ สุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีความบกพร่องทางพันธุกรรมบางอย่างที่เรียกว่า ข้อสะโพกเสื่อม ซึ่งเป็นสภาวะที่ข้อต่อลูกกลมและเบ้ากระดูกไม่สมดุลกัน อันทำให้สุนัขเจ็บปวดและเกิดการอักเสบ อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดโรคข้ออักเสบในภายหลัง อย่างไรก็ตาม สภาวะนี้สามารถจัดการได้ ขอแนะนำให้ลองพูดคุยกับสัตวแพทย์เกี่ยวกับทางเลือกที่มี ตัวอย่างเช่น หากสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ของคุณมีน้ำหนักมากเกินไป อาจทำให้สภาวะนี้เลวร้ายมากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องควบคุมอาหารให้สมดุลอย่างระมัดระวัง ในกรณีที่รุนแรง คุณอาจเลือกรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดได้เช่นกัน

ระวังการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในร่างกายสุนัข

น่าเสียดาย สุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้หลายประเภท รวมทั้งมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งในหลอดเลือด และเนื้องอกผิวหนังมาสต์เซลล์

การตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นกุญแจสำคัญ สิ่งสำคัญคือต้องคอยสังเกตอาการผิดปกติใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีก้อนและตุ่ม ความเจ็บปวดที่เห็นได้ชัด หรือการหายใจลำบาก ช่วงเวลาการแปรงขนสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์อาจเป็นโอกาสที่ดีในการสำรวจผิวหนังของสุนัข หากโชคร้ายเกิดความผิดปกติที่อวัยวะภายใน ก็จะมองเห็นได้ยากขึ้นมาก ดังนั้นถ้าสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ดูเหมือนไม่ค่อยสบาย ไม่ยอมกิน หรือน้ำหนักลด ให้นำไปพบสัตวแพทย์ ขอแนะนำให้นำสุนัขไปตรวจสุขภาพโดยรวมกับสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละสองครั้ง

โภชนาการที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัข

ลูกสุนัข
ช่วงโตเต็มวัย
สูงวัย
  • มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกอาหารให้กับสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ได้แก่ อายุ ไลฟ์สไตล์ ระดับกิจกรรม สภาพร่างกาย และสุขภาพรวมถึงการเจ็บป่วยหรืออาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้ อาหารช่วยให้พลังงานเพื่อเสริมสร้างการทำงานที่สำคัญของร่างกายและสูตรโภชนาการที่ครบถ้วนควรมีสารอาหารที่สมดุลเพื่อไม่ให้ขาดสารอาหารหรือได้รับสารอาหารมากเกินไป ซึ่งทั้งสองอย่างอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของสุนัขได้ ควรจัดเตรียมน้ำสะอาดไว้ให้ตลอดเวลาเพื่อสนับสนุนให้สุนัขปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ ในสภาพอากาศร้อนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อออกกำลังกาย ควรนำน้ำไปด้วยเพื่อให้สุนัขของคุณได้พักดื่มน้ำบ่อยๆ นอกจากนั้นยังอาจต้องปรับการบริโภคพลังงานตามสภาพภูมิอากาศ สุนัขที่อยู่กลางแจ้งในฤดูหนาวจะต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น คำแนะนำต่อไปนี้ใช้ได้กับสัตว์ที่มีสุขภาพแข็งแรงเท่านั้น โปรดปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อสั่งจ่ายอาหารสูตรเฉพาะสำหรับปัญหาสุขภาพของสุนัขของคุณ
  • ลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีความต้องการพลังงาน โปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินสูงกว่าสุนัขโตเต็มวัยมาก ลูกสุนัขต้องการพลังงานและสารอาหารเพื่อบำรุงร่างกาย แต่ก็เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างร่างกายด้วยเช่นกัน ร่างกายลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์จะค่อยๆ สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันจนกระทั่งอายุ 15 เดือน สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งรวมถึงวิตามินอี จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติตลอดช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การผจญภัย และการพบเจอสิ่งใหม่ๆ เหล่านี้ การทำงานของระบบทางเดินอาหารของลูกสุนัขมีความแตกต่างจากสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์โตเต็มวัยด้วยเช่นกัน ระบบทางเดินอาหารของลูกสุนัขที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ต้องการโปรตีนที่ย่อยได้ง่ายเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิผล พรีไบโอติก เช่น ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของทางเดินอาหารโดยช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลําไส้ ซึ่งจะทำให้ให้อุจจาระมีคุณภาพดี
  • สิ่งสําคัญคือต้องเลือกเม็ดอาหารที่มีขนาด รูปร่าง และเนื้อสัมผัสที่เหมาะสม ช่วงการเจริญเติบโตนี้ยังหมายถึงความต้องการพลังงานในระดับปานกลาง ลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่มีการเจริญเติบโตที่พรวดพราดในระยะเวลาที่ยาวนาน ดังเช่นลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างกระดูกและข้อต่อ รวมถึงความผิดปกติของแขนและขา กระดูกที่ผิดรูป และการบาดเจ็บที่ข้อต่อ ข้อกังวลหลักในช่วงแรกของการเจริญเติบโตคือพัฒนาการของกระดูก แม้ว่ากล้ามเนื้อเริ่มเติบโตแล้วก็ตาม ซึ่งหมายความว่าลูกสุนัขที่กินมากเกินไปจะได้รับพลังงานมากเกินไป ส่งผลให้มีน้ำหนักตัวมากเกินและเติบโตเร็วเกินไป การจำกัดปริมาณพลังงานในอาหารสําหรับลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ และการให้อาหารในปริมาณที่ถูกต้องในแต่ละวันจะช่วยควบคุมความเร็วของการเจริญเติบโตและลดความเสี่ยงในการมีน้ำหนักเพิ่มมากเกินไปนี้
  • สารอาหารอื่นๆ ในอาหารสูตรพิเศษเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตควรมีความเข้มข้นมากกว่าปกติ แม้จะต้องเพิ่มปริมาณแคลเซียมในอาหารให้มากขึ้น ลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ก็ยังคงได้รับความเสี่ยงจากการบริโภคแคลเซียมส่วนเกิน ดังนั้น จึงต้องเข้าใจว่าการเพิ่มส่วนผสมใดๆ ลงไปในในอาหารสูตรเฉพาะสำหรับการเจริญเติบโตนั้นไม่มีความจำเป็น และอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อตัวสัตว์เลี้ยงเอง เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ แนะนําให้แบ่งปริมาณอาหารที่ควรได้รับต่อวันออกเป็นสามมื้อจนกว่าสุนัขจะมีอายุครบ 6 เดือน จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นให้อาหารวันละสองมื้อ เจ้าของไม่ควรให้อาหารสำหรับคนหรือขนมที่มีไขมันแก่สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ตลอดชีวิตของสุนัข ควรให้รางวัลสุนัขด้วยการแบ่งเม็ดอาหารจากปริมาณอาหารต่อวัน และปฏิบัติตามแนวทางการให้อาหารที่เขียนกำกับไว้ข้างบรรจุภัณฑ์อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขมีน้ำหนักตัวมากที่เกินพอดี
  • เป้าหมายหลักด้านโภชนาการสําหรับสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์โตเต็มวัยคือ:
  • รักษาระดับน้ำหนักตัวที่เหมาะสมด้วยอาหารที่ใช้ส่วนผสมที่ย่อยง่ายและมีปริมาณไขมันในระดับที่พอเหมาะ
  • บำรุงสุขภาพของกระดูกและข้อต่อด้วยกลูโคซามีน คอนดรอยติน และสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ส่งเสริมการย่อยอาหารที่ดีด้วยโปรตีนคุณภาพสูงและใยอาหารในปริมาณที่สมดุล
  • ช่วยรักษาสุขภาพผิวหนังและขนให้เงางามมีสุขภาพดีด้วยสารอาหารที่อดุมไปด้วยกรดไขมันจําเป็น (โดยเฉพาะ EPA-DHA) กรดอะมิโนที่จําเป็น และวิตามินบีต่างๆ
  • สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์จะเริ่มเแสดงสัญญาณของความสูงวัยเมื่ออายุ 5 ปีขึ้นไป อาหารสูตรที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยบำรุงกำลัง และสารอาหารเฉพาะบางอย่าง เช่น คอนดรอยทิน และกลูโคซามีน จะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของกระดูกและข้อต่อของพวกเขา ความสูงวัยมาคู่กับความสามารถในการย่อยอาหารที่เปลี่ยนไป รวมถึงความต้องการสารอาหารที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้นอาหารสำหรับสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์สูงวัยจึงควรมีลักษณะดังนี้
  • มีปริมาณวิตามินซีและอีสูง สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายจากความเครียดที่เกิดจากออกซิเดชันที่เกี่ยวข้องกับความสูงวัย
  • โปรตีนคุณภาพสูง การลดปริมาณโปรตีนในอาหารช่วยลดอาการไตวายได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งขัดกับความเข้าใจผิดที่แพร่หลายมาก นอกจากนี้ สุนัขที่อายุมากขึ้นใช้ประโยชน์จากโปรตีนในอาหารได้น้อยกว่าสุนัขที่อายุน้อย การลดปริมาณฟอสฟอรัสเป็นการชะลอความเสื่อมสภาพของการทำงานของไตในระยะยาวได้ดี
  • สัดส่วนของแร่ธาตุที่จำเป็นในระดับที่สูง ได้แก่ ธาตุเหล็ก และสังกะสี จะช่วยในการบำรุงผิวหนังและขนให้มีสุขภาพดี
  • มีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงขึ้นเพื่อดูแลขนให้มีสุขภาพดี โดยปกติแล้วสุนัขสามารถผลิตกรดไขมันเหล่านี้ได้เอง แต่กระบวนดังกล่าวจะได้รับผลกระทบตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น
  • เมื่ออายุมากขึ้น สุนัขก็จะประสบปัญหาเกี่ยวกับฟันมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าสุนัขรับประทานอาหารในปริมาณที่เพียงพอ ต้องปรับเปลี่ยนขนาด รูปร่าง และเนื้อสัมผัสของเม็ดอาหารให้เหมาะสมกับฟันของสุนัขในวัยนี้
สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์วิ่งฝ่าเกลียวคลื่นบนชายหาด

6/7

การดูแลสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ของคุณ

เคล็ดลับในการดูแลขน การฝึก และการออกกําลังกาย

Inline Image 6

ในฐานะอดีตสุนัขล่าสัตว์ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการการออกกำลังกายนอกบ้านอย่างมาก ดังนั้นสุนัขโตเต็มวัยควรได้รับการออกกำลังกายอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงต่อวัน แต่ควรมากกว่าสองชั่วโมงขึ้นไป หากสุนัขไม่ได้ออกกำลังกายเพียงพอ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์อาจทำตัววุ่นวายเล็กน้อย ดังนั้นการเดินหรือวิ่งนานๆ จะช่วยให้สุนัขเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้ ในทางกลับกันในบางครั้ง สุนัขบางตัวอาจชื่นชอบที่จะได้นอนนิ่งๆ บนที่นอนอย่างมีความสุข ซึ่งอาจนำไปสู่การมีน้ำหนักมากเกินไป ดังนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญทุกโอกาส ด้วยการสืบเชื้อสายมาจากสุนัขล่าสัตว์ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มักจะสนุกกับการเล่นคาบสิ่งของและการว่ายน้ำ เจ้าของจึงควรใช้ความคิดสร้างสรรค์เล็กน้อยกับโปรแกรมกิจกรรมของสุนัข

Inline Image 7

หนึ่งในข้อเสียบางอย่างเท่านั้นหรือไม่ ข้อเสียของการเลี้ยงสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์คือ ขนที่ยาวของสุนัขค่อนข้างต้องการการบำรุงรักษาพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสุนัขหลงรักการเดินย่ำในทุ่งโคลน กลิ้งในแอ่งน้ำ หรือเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำ (ซึ่งจริงๆ แล้วสุนัขเป็นแฟนตัวยงเลยล่ะ) นอกจากนี้ สุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีแนวโน้มที่จะผลัดขนค่อนข้างมาก ดังนั้นควรแปรงขนสุนัขอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และทุกวันในช่วงฤดูผลัดขน ควรตรวจสอบขนของสุนัขหลังจากการเดินเล่น เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดพันกันอยู่ในขน และต้องอาบน้ำสุนัขเป็นประจำเพื่อให้มีสุนัขมีกลิ่นตัวที่ดี การตัดแต่งเล็บ ตรวจหู และแปรงฟันควรทำอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

Inline Image 11

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสายพันธุ์ที่ฉลาดและอัจฉริยะ อีกทั้งยังกระตือรือร้นที่จะเอาใจทุกคน นิสัยเช่นนี้ทำให้การฝึกเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจสำหรับสุนัขและเจ้าของ เนื่องจากสุนัขชอบขนมมาก จึงสามารถใช้ขนมเป็นสิ่งล่อใจเพิ่มเติม ตราบใดที่เป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพ! คำนวณปริมาณขนมและปรับสัดส่วนอาหารประจำวันให้เหมาะสมตามนั้น เริ่มฝึกสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ให้รู้จักเข้าสังคมเป็นประจำตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข และเข้าคลาสฝึกลูกสุนัข แล้วสุนัขจะคุ้นเคยกับสิ่งต่างๆ ในไม่ช้า นอกจากชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศในชั้นเรียนความคล่องตัวและการเชื่อฟังคำสั่งแล้ว สุนัขหลายตัยังเป็นเลิศในเวทีการแสดง คุณยังสามารถเสริมการฝึกโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ด้วยการเล่นเกมเป็นประจำที่บ้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดี

7/7

เกี่ยวกับสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์

แม้ความจริงแล้วจะมีโกลเด้น รีทรีฟเวอร์เพียงสายพันธุ์เดียว แต่มีสามแบบย่อยแตกต่างกันอยู่ในนั้น ได้แก่ สายพันธุ์อังกฤษ แคนาดา และอเมริกัน โดยทั่วไปแล้ว โกลเด้น รีทรีฟเวอร์สายพันธุ์อังกฤษ มีแนวโน้มที่จะมีโครงสร้างร่างกายที่แข็งแรงกว่าและสีขนอ่อนกว่าแบบอื่นๆ ในขณะที่โกลเด้น รีทรีฟเวอร์สายพันธุ์แคนาดาและอเมริกันมีรูปร่างคล้ายกัน แต่สายพันธุ์แคนาดามีขนที่บางกว่า และมีเสียงแตกต่างกันเมื่อเห่า

แม้ว่าสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์สามารถรับมือกับสถานการณ์ถูกทิ้งไว้ตามลำพังได้ดีกว่าบางสายพันธุ์ แต่จริงๆ แล้ว ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้อยู่กับครอบครัวมนุษย์ ดังนั้น หากต้องแยกจากกันนานเกินไปหรือบ่อยเกินไป ความกังวลในการแยกจากกันอาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับสายพันธุ์อื่นๆ สภาวะนี้สามารถนำไปสู่การเห่า หอน และพฤติกรรมทำลายล้าง สรุปแล้วทางที่ดีที่สุดคือไม่ควรปล่อยสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ให้อยู่ตามลำพังหากเป็นไปได้ เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ

ที่มา

1 - ศูนย์สัตวแพทย์แห่งอเมริกา https://vcahospitals.com/

2 - สารานุกรมสุนัขของโรยัล คานิน ฉบับปี 2010 และ 2020

3 - โรงพยาบาลสัตว์แบนฟิลด์ https://www.banfield.com/

4 - คู่มือผลิตภัณฑ์ BHN ของโรยัล คานิน

5 - American Kennel Club https://www.akc.org/