มาคุยเรื่องสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนกันเถอะ

ปอมเมอเรเนียนที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขลากเลื่อน แม้รุ่นปัจจุบันมีขนาดเล็กลงมากก็ตามแต่ก็ฉลาด ขี้เล่น และเปี่ยมไปด้วยพลัง สุนัขเหล่านี้เป็นที่รู้จักจากใบหน้าเจ้าเล่ห์ ลักษณะ 'ยิ้มแย้ม' และขนสวย ไม่ต้องพูดถึงขนบน 'แผงคอ' ที่โดดเด่น

และหางเป็นพวงที่ช่วยเสริมให้ดูสมบูรณ์แบบ ปอมเมอเรเนียนยังเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ยอดเยี่ยมที่คอยเฝ้าคนแปลกหน้าตลอดเวลา ทัศนคติของสุนัขตัวใหญ่ในร่างสุนัขตัวเล็กขนานแท้

ชื่ออย่างเป็นทางการ: ปอมเมอเรเนียน

ชื่ออื่นๆ: สแว็กสปิตซ์, ทอย สปิตซ์, ปอม

แหล่งกำเนิด: เยอรมนี


ภาพขาวดำของสุนัขโตเต็มวัยพันธุ์ปอมเมอเรเนียนยืนอยู่
  • แนวโน้มของการมีน้ำลายไหล

    1 out of 5
  • ความต้องการในการดูแลขน

    4 out of 5
  • ระดับการผลัดขน

    4 out of 5
  • แนวโน้มของการเห่า

    5 out of 5
  • ระดับพลังงาน*

    1 out of 5
  • ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

    2 out of 5
  • ความเหมาะสมต่ออากาศอบอุ่น

    2 out of 5
  • ความเหมาะสมต่ออากาศหนาว

    3 out of 5
  • ความเหมาะสมต่อการเลี้ยงในอพาร์ตเมนต์

    4 out of 5
  • ความสามารถในการอยู่ได้โดยลำพัง*

    2 out of 5
  • ความเหมาะสมกับครอบครัว*

    3 out of 5
* เราไม่แนะนําให้ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่โดยลำพังเป็นเวลานานๆ การมีคนหรือสัตว์อยู่ด้วยช่วยป้องกันความเครียดและลดพฤติกรรมทำลายข้าวของ โปรดขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ของคุณ สัตว์เลี้ยงทุกตัวมีความแตกต่างกันแม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์เดียวกันก็ตามที คุณควรใช้ข้อมูลจำเพาะโดยสังเขปของสายพันธุ์เพื่อเป็นข้อบ่งชี้โดยทั่วไปเท่านั้น เราขอแนะนําให้ฝึกและนำสัตว์เลี้ยงของคุณไปเข้าสังคม รวมถึงดูแลความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน (รวมถึงความต้องทางสังคมและทางพฤติกรรม) ของสัตว์เลี้ยงให้ดี เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี มีความสุข และมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ไม่ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้กับเด็กตามลำพัง โปรดขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เพาะพันธุ์สัตว์หรือสัตวแพทย์ของคุณ สัตว์เลี้ยงทุกตัวเข้ากับคนง่ายและชอบอยู่ร่วมกับคนหรือสัตว์ตัวอื่น แต่คุณก็อาจฝึกให้สัตว์เลี้ยงเรียนรู้ที่จะอยู่โดยลำพังได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โปรดขอให้สัตวแพทย์หรือครูฝึกช่วยเหลือคุณในประเด็นนี้
ภาพประกอบของปอมเมอเรเนียนสีแดงจากด้านข้าง
ตัวผู้ตัวเมีย
ความสูงความสูง
18 - 30.5 cm18 - 30.5 cm
น้ำหนักน้ำหนัก
0 - 3.5 kg0 - 3.5 kg
ขั้นตอนชีวิต
ช่วงวัยลูกสุนัขช่วงอายุโตเต็มวัย
อายุ 2 ถึง 10 เดือน10 เดือนถึง 8 ปี
ช่วงอายุเริ่มสูงวัยช่วงอายุสูงวัย
8 ถึง 12 ปี12 ถึง 22 ปี
ช่วงวัยแรกเกิด
วัยแรกเกิดถึง 2 เดือน
ปอมเมอเรเนียนวิ่งเข้าหากล้องบนหญ้า
1/7

มาทําความรู้จักกับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนกันเถอะ

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์นี้

มีพละกำลังมากกว่าขนาดตัว ปอมเมอเรเนียนอาจมีขนาดเล็กกว่าบรรพบุรุษที่เป็นสุนัขลากเลื่อน แต่ยังคงมีอุปนิสัยแบบเดิม กล้าหาญ วางโต ไม่กลัวใคร สุนัขเหล่านี้ยังมีความอยากรู้อยากเห็นไม่หยุดหย่อนกับทุกสิ่งรอบตัว ดังนั้น จึงเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ยอดเยี่ยม

ในทางกลับกัน ปอมเมอเรเนียนอาจเป็นสายพันธุ์ที่ชอบเห่า ดังนั้น หากคุณชอบความเงียบสงบ หรือมีเพื่อนบ้านที่มีความรู้สึกไว สายพันธุ์นี้อาจไม่เหมาะสำหรับคุณ

นอกจากเรื่องดังกล่าว ยังมีอีกหลายสิ่งที่คุณจะหลงรักเกี่ยวกับนิสัยของปอมเมอเรเนียน ฉลาด และตื่นตัว สุนัขเหล่านี้พร้อมเสมอที่จะปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของ รอบตัวคุณจึงอบอวลด้วยความสนุกสนาน และด้วยส่วนสูงที่สูงที่สุดเพียง 12 นิ้วปอมเมอเรเนียนจึงไม่ต้องการการออกกำลังกายมากนัก และจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายในบ้านส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี

ปอมเมอเรเนียนเป็นสมาชิกตัวเล็กที่สุดในตระกูลสุนัขพันธุ์เยอรมัน สปิตซ์ซึ่งรวมถึงซามอยด์, อลาสกัน มาลามิวและนอร์วีเจียน เอลก์ฮาวนด์ ในบางประเทศเป็นที่รู้จักในชื่อ 'ทอย สปิตซ์' สายพันธุ์นี้ที่เรารู้จักในปัจจุบันได้รับการพัฒนาขึ้นในเยอรมนี ซึ่งอาจอยู่ในช่วงทศวรรษ 1700 แต่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์อย่างค่อยเป็นค่อยไปให้มีขนาดเล็กลง

ในเวลาไม่นาน ปอมเมอเรเนียนเป็นที่ต้องการอย่างมากของบรรดาแฟนๆ ที่มีชื่อเสียงมากมาย ผู้ที่อาจเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียที่ทรงโปรดปรานสายพันธุ์นี้อย่างมาก และช่วยเสริมสร้างความนิยมในปอมเมอเรเนียน (ดูเพิ่มเติมเรื่องราวของปอมเมอเรเนียนในส่วนนี้ได้จากหัวข้อประวัติสายพันธุ์)

ปอมเมอเรเนียนมีเสน่ห์ที่ซุกซนเล็กน้อย มีนิสัยน่ารักและเป็นสัตว์เลี้ยงที่สร้างความสุขอย่างแท้จริง นอกจากนี้ หากคุณสงสัยว่าปอมเมอเรเนียนมีอายุยืนยาวแค่ไหน ตอบได้ว่าสุนัขสายพันธุ์นี้มีอายุขัยยืนยาวเป็นพิเศษ บ่อยครั้งมักอายุยืนได้ถึงเกือบยี่สิบปี

จึงไม่แปลกใจเลยที่ปอมเมอเรเนียนเป็นหนึ่งในสุนัขสายพันธุ์ทอยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก สุนัขเหล่านี้ยังเป็นขาประจำในรายชื่อสุนัขยอดนิยม 20 อันดับแรกของโลก

ปอมเมอเรเนียนสีน้ำตาลอ่อนกำลังวิ่งบนพื้นหญ้า
2/7

ข้อเท็จจริง 2 ประการเกี่ยวกับปอมเมอเรเนียน

2. ย้อนกลับไปยังเรือไททานิก 

ปี 2455 ปอมเมอเรเนียน 2 ตัวเป็นสุนัขที่รอดชีวิตในจำนวนสุนัขทั้งหมด 3 ตัวจากเหตุการณ์เรือไททานิกจม สัตว์ที่โชคดีสองตัวนี้พร้อมกับเจ้าของเป็นส่วนหนึ่งของผู้รอดชีวิตที่พบตัวเองอยู่บนเรือชูชีพ ในภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน ตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาพโรสอุ้มสุนัขปอมเมอเรเนียนอยู่

1. ต้นกำเนิดจากยุคหิน

สืบเชื้อสายมาจากเยอรมัน สปิตซ์ เชื้อสายของปอมเมอเรเนียนย้อนกลับไปถึงยุคหิน การขุดค้นในเยอรมนีตอนเหนือได้พบตัวอย่างที่มีการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษเก่าแก่ที่สุดของสายพันธุ์นี้

3/7

ประวัติของสายพันธุ์

เพื่อสืบสาวกลับไปถึงต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ บรรพบุรุษในแถบนอร์ดิกของปอมเมอเรเนียนคือสุนัขลากเลื่อนในแถบอาร์กติก สัตว์ที่ทรหดเหล่านี้มักรู้จักกันในชื่อ วูล์ฟสปิตซ์ หรือสปิตซ์ และปอมเมอเรเนียนสืบเชื้อสายมาจากเยอรมัน สปิตซ์

เชื่อกันว่า สายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนที่เรารู้จักกันในวันนี้ ซึ่งตั้งชื่อตามชื่อแคว้นปอมเมอเรเนีย (ทางเหนือของโปแลนด์และเยอรมนี) ที่เป็นถิ่นกำเนิดของสุนัขเหล่านี้นั้น ซึ่งคาดว่าได้รับการพัฒนาขึ้นมาในทศวรรษ 1700 แต่เดิมเป็นสุนัขขนาดใหญ่กว่าปัจจุบันมาก แต่มีการลดขนาดลงด้วยการผสมแบบคัดเลือกสายพันธุ์ และยังมีการพัฒนาสีขนต่างๆ มากขึ้นด้วย

ภายในระยะเวลาอันสั้น ปอมเมอเรเนียนก็เริ่มได้รับความนิยม และไม่นานนักสุนัขเหล่านี้ก็กลายเป็นที่ต้องการของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง เชื้อพระวงศ์พระองค์แรกที่เราทราบว่ามีปอมเมอเรเนียนคือพระราชินีชาร์ลอตต์ ซึ่งเป็นพระมเหสีในพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งบริเตนใหญ่ ปอมเมอเรเนียนสองตัวของพระองค์ปรากฏในภาพวาดของเซอร์โธมัส เกนส์โบโรห์

ต่อมาสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียได้ทรงโปรดปรานปอมเมอเรเนียนอย่างมากเช่นกัน จนถึงขั้นตั้งคอกเพาะพันธุ์ขึ้นมา อิทธิพลของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียยังทำให้มีการนำปอมเมอเรเนียนไปแสดงในงาน Crufts ซึ่งเป็นงานแสดงสุนัขในสหราชอาณาจักร โดยมีผู้ส่งเข้าประกวดเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นระยะเวลาหลายปี

สโมสรปอมเมอเรเนียนก่อตั้งขึ้นในปี 2434 ซึ่งเป็นปีแรกในงาน Crufts และไม่นานหลังจากนั้นได้มีการกำหนดมาตรฐานของสายพันธุ์นี้ ต่อมาในปี 2441 สายพันธุ์นี้ได้รับการจดทะเบียนกับ American Kennel Club ในสหรัฐอเมริกา และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในประเทศนี้ในปี 2443 คงไม่ต้องบอกว่าปอมเมอเรเนียนเป็นขาประจำที่ได้รับความนิยมในการแสดงสุนัขและในบ้านสมัยใหม่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

4/7

ตั้งแต่หัวจรดหาง

ลักษณะทางกายภาพของสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

1
2
3
4
5

1.ใบหน้า

ลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอก หน้าเล็ก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสดใสฉายแววอยากรู้อยากเห็น

2.ลำตัว

ลำตัวสั้นและกะทัดรัด หลังตรงได้ระดับ

3.หาง

หางเป็นพวงมีขนฟูและมักม้วนงอ

4.ขน

ขนสองชั้นแน่นโดยขนชั้นในสั้นหนาและขนชั้นนอกยาว

5.เส้นขน

มีหลากหลายสีตั้งแต่สีน้ำตาล สีขาว สีส้ม และสีเทา เป็นต้น
5/7

ข้อควรระวัง

ในที่นี้มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจบางประการเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ตั้งแต่ลักษณะนิสัยประจำสายพันธุ์ไปจนถึงภาพรวมด้านสุขภาพทั่วไป

ควรใช้สายรัดแทนสายจูง

เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์เล็กอื่นๆ ปอมเมอเรเนียนอาจเสี่ยงต่อสภาวะที่เสื่อมถอยลงที่เรียกว่า 'ภาวะหลอดลมตีบ' ซึ่งประกอบด้วยความเสื่อมของกระดูกอ่อนที่พยุงหลอดลมและภาวะกล้ามเนื้อหลอดลมอ่อนแรงที่นำไปสู่แนวโน้มการตีบแคบของทางเดินหายใจ แม้สภาวะนี้สืบทอดทางพันธุกรรม แต่อาจรุนแรงขึ้นจากการใช้ปลอกคอและสายจูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปอมเมอเรเนียนของคุณพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วขณะสวมปลอกคอและสายจูง หรือหากคุณดึงกลับแรงเกินไป อาการอาจรวมถึงการส่งเสียงเหมือนเสียงห่านร้อง ไอ หายใจมีเสียงหวีด หรือหายใจลำบาก และในกรณีที่อาการรุนแรง สุนัขอาจเป็นลมได้ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือเลือกใช้สายรัดแบบคาดอก หากมีสภาวะรุนแรง การผ่าตัดอาจเป็นตัวเลือกหนึ่ง

การดูแลขาเล็กๆ ของสุนัขสำคัญเช่นกัน

อีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยสำหรับสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน คือภาวะที่เรียกว่า Patellar luxation ภาวะนี้ที่เรียกว่า 'ข้อเข่าติด' ในคนคือสภาวะที่กระดูกสะบ้าหัวเข่าในขาหลังเคลื่อนออกจากตำแหน่ง แม้โดยปกติแล้วกระดูกสะบ้าหัวเข่าจะเคลื่อนกลับเข้าตำแหน่งเองได้ แต่ทุกครั้งที่เกิดภาวะนี้จะทำให้เยื่อบุข้อต่อเสียหาย ทำให้เกิดการอักเสบและอาจเจ็บปวดมาก โดยมีอาการต่างๆ เช่น เดินกะเผลกหรือเดิน 'กระโดดข้าม' แบบแปลกๆ ขอแนะนำให้ตรวจกระดูกและกล้ามเนื้อปีละสองครั้งโดยเฉพาะ เนื่องจากสภาวะนี้อาจนำไปสู่โรคข้ออักเสบในภายหลัง การตรวจสอบให้แน่ใจว่าปอมเมอเรเนียนของคุณมีน้ำหนักที่เหมาะสมอาจเป็นมาตรการป้องกันที่ดี ในกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้น สัตวแพทย์อาจสั่งจ่ายยาแก้ปวดให้หรือทำการผ่าตัดหากจำเป็น

เจ้าของยังต้องเฝ้าระวังสุขภาพดวงตาของสุนัขด้วย

อีกหนึ่งลักษณะที่ควรรับรู้สำหรับปอมเมอเรเนียน คือสุนัขเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาทางสายตาบางอย่างด้วย ซึ่งรวมถึงโรคต้อกระจก ตาแห้ง ปัญหาเกี่ยวกับท่อน้ำตา เป็นต้น เนื่องจากโรคเหล่านี้อาจส่งผลต่อการมองเห็นหากไม่ได้รับการรักษา ดังนั้น สิ่งสำคัญคือขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หากคุณพบอาการใดๆ เช่น รอยแดง รอยแผลเป็น หรือน้ำตาไหลมาก หรือหากสุนัขของคุณเริ่มขยี้ตา ควรติดต่อสัตวแพทย์ของคุณทันที ด้วยวิธีนี้ทำให้สามารถดำเนินการขั้นตอนที่เหมาะสมได้ทันท่วงที ขอแนะนำให้ตรวจตาเป็นประจำ

โภชนาการที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัข

เมื่อเลือกอาหารให้กับปอมเมอเรเนียน มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ได้แก่ อายุ วิถีชีวิต ระดับกิจกรรม สภาพร่างกาย และสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการเจ็บป่วยหรืออาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้ อาหารช่วยให้พลังงานเพื่อเสริมสร้างการทำงานที่สำคัญของร่างกายและสูตรโภชนาการที่ครบถ้วนควรมีสารอาหารที่สมดุลเพื่อไม่ให้ขาดสารอาหารหรือได้รับสารอาหารมากเกินไป ซึ่งทั้งสองอย่างอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของสุนัขได้ คำแนะนำต่อไปนี้ใช้ได้กับ สัตว์ที่มีสุขภาพแข็งแรงเท่านั้น หากสุนัขของคุณมีปัญหาสุขภาพ โปรดปรึกษา สัตวแพทย์ของคุณเพื่อสั่งจ่ายอาหารสุนัขสูตรลดน้ำหนักพิเศษ ควรจัดเตรียมน้ำสะอาด ไว้ให้ตลอดเวลาเพื่อช่วยให้สุนัขปัสสาวะได้อย่างสม่ำเสมอ ในสภาพอากาศร้อนและ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อออกกำลังกาย ควรนำน้ำไปด้วยเพื่อให้สุนัขของคุณได้ พักดื่มน้ำบ่อยๆ

ลูกสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนมีความต้องการพลังงาน โปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินสูงกว่าตอนโตเต็มวัย ลูกสุนัขต้องการพลังงานและสารอาหารเพื่อบำรุงร่างกาย แต่ก็เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างร่างกายด้วยเช่นกัน ระบบภูมิคุ้มกันของลูกสุนัขปอมเมอเรเนียนจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นจนกระทั่งอายุ 8 เดือน สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งรวมถึงวิตามินอี จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติตลอดช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การผจญภัย และการพบเจอสิ่งใหม่ๆ เหล่านี้ การทำงานของระบบทางเดินอาหารของลูกสุนัขมีความแตกต่างจากปอมเมอเรเนียนโตเต็มวัยด้วยเช่นกัน ระบบทางเดินอาหารของลูกสุนัขที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ต้องการโปรตีนที่ย่อยได้ง่ายเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิผล การบริโภคเส้นใยที่สมดุล เช่น ไซเลี่ยม ช่วยในการลำเลียงอาหารในลำไส้และช่วยให้อุจจาระมีคุณภาพดี

ในทํานองเดียวกัน ฟันของลูกสุนัขทั้งฟันซี่แรกที่เป็นฟันน้ำนมและฟันแท้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกขนาด รูปร่าง และความแข็งของเม็ดอาหาร ระยะการเจริญเติบโตนี้ยังหมายถึงความต้องการพลังงานสูง ดังนั้นอาหารจึงต้องมีปริมาณพลังงานสูง (ระบุเป็น Kcal ต่ออาหาร 100 กรัม) และความเข้มข้นของสารอาหารอื่นๆ ทั้งหมดในอาหารสูตรเฉพาะเพื่อการเจริญเติบโตก็ยังต้องสูงกว่าปกติอีกด้วย ขอแนะนําให้แบ่งอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวันเป็นสามมื้อจนกว่าจะอายุครบหกเดือน จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นให้อาหารวันละสองมื้อ

เป้าหมายหลักทางโภชนาการสำหรับปอมเมอเรเนียนโตเต็มวัยคือ:

รักษาระดับน้ำหนักตัวที่เหมาะสม ด้วยอาหารที่ใช้ส่วนผสมที่ย่อยง่ายและมีปริมาณไขมันในระดับ ที่พอเหมาะ

การรักษาสุขภาพและความเงางามของ ผิวหนังและขนด้วยการเพิ่มกรดไขมันที่จําเป็น (โดยเฉพาะ EPA-DHA) กรดอะมิโนที่สำคัญและวิตามินบี

เมื่อโตเต็มวัย สุนัขพันธุ์เล็กมาก เช่น ปอมเมอเรเนียน มีแนวโน้มที่จะมีอาการท้องผูก ดังนั้น ควรมองหาอาหารสูตรที่มีการบริโภคเส้นใยที่สมดุลที่รวมถึงไซเลี่ยม เพื่อช่วยในการลำเลียงอาหารในลำไส้ และโปรตีนที่ย่อยได้ง่ายเพื่อช่วยให้อุจจาระมีคุณภาพดี

เม็ดอาหารควรมีขนาดที่เล็กมาก และเหมาะกับขากรรไกรขนาดเล็กของปอมเมอเรเนียน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการตวัดอาหารเข้าปาก ซึ่งยังอาจช่วยกระตุ้นความอยากอาหารที่แสนจะเรื่องมากของสุนัข สุนัขพันธุ์เล็กมากมีแนวโน้มพบนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ ดังนั้น จึงแนะนำอาหารที่เสริมสร้างระบบทางเดินปัสสาวะให้มีสุขภาพดี

เจ้าของไม่ควรให้อาหารคนหรือขนมขบเคี้ยวที่มีไขมันแก่ปอมเมอเรเนียน แต่สามารถให้รางวัลสุนัขเป็นเม็ดอาหารโดยแบ่งมาจากอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวันแทนเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขมีน้ำหนักตัวมากเกินไป นอกจากนี้ยังควรปฏิบัติตามแนวทางการให้อาหารที่เขียนกำกับไว้บนบรรจุภัณฑ์อย่างเคร่งครัด รวมถึงสำหรับปอมเมอเรเนียนที่ทำหมันแล้ว เนื่องจากการทำหมันเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สุนัขมีน้ำหนักตัวมากเกินไป

สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนจะเริ่มเแสดงสัญญาณของความสูงวัยเมื่ออายุ 8 ปีขึ้นไป อาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยรักษาความมีชีวิตชีวา และสารอาหารหลัก เช่น ทอรีน ช่วยสนับสนุนการทำงานของหัวใจที่ดี ความสูงวัยจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการย่อยอาหารและความต้องการทางโภชนาการที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้น อาหารสำหรับสุนัขสูงวัยควรมีลักษณะดังต่อไปนี้:

มีปริมาณวิตามินซีและอีสูง สารอาหารเหล่านี้ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ร่างกาย จากอันตรายที่มาจากภาวะความเครียดออกซิเดชันที่เกี่ยวข้องกับความสูงวัย

โปรตีนคุณภาพสูง การ ลดปริมาณโปรตีนในอาหารจะช่วยลดอาการ ไตวายได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งขัดกับความเข้าใจผิดที่แพร่หลายมาก นอกจากนี้ สุนัขที่อายุมากขึ้นจะใช้ประโยชน์ จากโปรตีนในอาหารได้น้อยกว่าสุนัขที่อายุน้อย การลดปริมาณฟอสฟอรัส จะช่วยชะลอความเสื่อมสภาพการทำงานของไตในระยะยาว ได้ดี

สัดส่วนของแร่ธาตุที่จำเป็นในระดับที่สูง ได้แก่ ธาตุเหล็ก และสังกะสี จะช่วยในการบำรุงผิวหนังและขนให้มีสุขภาพดี

มีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนมากกว่า เพื่อดูแลขนให้มีสุขภาพดี ปกติสุนัขสามารถผลิต กรดไขมันเหล่านี้ได้ แต่ความสูงวัยอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานนี้

เมื่ออายุมากขึ้น สุนัขจะ ประสบปัญหาเกี่ยวกับฟันมากขึ้น เพื่อให้สุนัขรับประทานอาหารได้ใน ปริมาณที่เพียงพอ ควรต้องปรับเปลี่ยนขนาด รูปร่าง และเนื้อสัมผัสของเม็ดอาหารให้เหมาะสมกับ ฟันของสุนัขในวัยนี้

มุมมองจากด้านข้างของปอมเมอเรเนียนสีแดงบนหญ้า
6/7

การดูแลสุนัขปอมเมอเรเนียนของคุณ

เคล็ดลับในการดูแลขน การฝึก และการออกกําลังกาย

เนื่องจากปอมเมอเรเนียนตัวเล็กมากจึงมีความต้องการการออกกำลังกายน้อยกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม สุนัขเหล่านี้ยังต้องการเดินวันละครั้ง และที่ดีที่สุดคือวันละสองครั้ง เพื่อให้มีโอกาสยืดขาเล็กๆ และสูดอากาศนอกบ้าน เนื่องจากขนาดที่เล็กของปอมเมอเรเนียน ควรหลีกเลี่ยงสวนสาธารณะที่มีสุนัขหลายสายพันธุ์ เพราะปอมเมอเรเนียนอาจถูกสุนัขที่ตัวโตกว่าชนล้มโดยไม่ตั้งใจ และบางครั้งปอมเมอเรเนียนเองยังอาจไปท้าทายสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่า เมื่ออยู่ในสวนที่บ้านหรือสนามหลังบ้าน สิ่งสำคัญคือคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักมายากลจิ๋วเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องการหลบหนี แม้จะมุดผ่านช่องเล็กๆ ก็ตาม ปอมเมอเรเนียนอาจมีแนวโน้มมีไขมันหน้าท้องเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น ควรหากิจกรรมให้ทำตลอดเวลา แม้ไม่มีสิ่งใดที่สุนัขเหล่านี้ชอบมากไปกว่าการนอนเล่นบนตักของคุณก็ตาม

ขนสวยงามที่เหมือนขนสุนัขจิ้งจอกเป็นหนึ่งในลักษณะเด่นของปอมเมอเรเนียน แต่คุณจะต้องใส่ใจเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าขนสุนัขยังคงสภาพสวยงามที่สุด การแปรงขนเบาๆ ทุกวันจะช่วยกำจัดขนที่ตายแล้วและทำให้ขนดูเงางาม และเนื่องจากปอมเมอเรเนียนมีขนสองชั้น ขนชั้นในหนานุ่มและแน่น ส่วนขนชั้นนอกยาวกว่า การแปรงลึกลงไปในขนสัปดาห์ละครั้งจะส่งผลดีต่อขนของสุนัข แนะนำให้นำปอมเมอเรเนียนของคุณไปตัดแต่งขนโดยช่างมืออาชีพ ซึ่งรวมถึงการอาบน้ำทุก 4-6 สัปดาห์ เนื่องจากปอมเมอเรเนียนอาจผลัดขนค่อนข้างมาก การแปรงขนตามปกติจึงควรช่วยไม่ให้มีขนส่วนเกินร่วงหล่นอยู่บนพรมด้วยเช่นกัน ควรตัดเล็บสั้นเสมอ แปรงฟันอย่างน้อยทุกสัปดาห์ (และควรแปรงทุกวันหากทำได้) และตรวจหูเป็นประจำ

เนื่องจากเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ฉลาดมาก ปอมเมอเรเนียนจะชอบโปรแกรมการฝึกตามความต้องการเฉพาะ ที่ให้การกระตุ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ สุนัขจะสนุกกับการเล่นเกมกับคุณที่บ้านเช่นเดียวกัน สำหรับสุนัขที่ฉายแววว่าสามารถพัฒนาได้ต่อไป อาจทำได้ดีในการฝึกด้านต่างๆ อีกด้วย เช่น ความคล่องตัว การเชื่อฟังคำส่ง และการแข่งขัน และสุนัขเหล่านี้ยังเป็นสุนัขบำบัดที่ดีด้วยเช่นกัน มีเพียงสองสามสิ่งที่ควรจดจำ… ปอมเมอเรเนียนอาจมีแนวโน้ม 'ชอบส่งเสียง' เล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระแวงคนแปลกหน้า การเข้าสังคมแต่เนิ่นๆ อาจช่วยได้ สุนัขเหล่านี้ยังอาจใช้เวลานานกว่าปกติเล็กน้อยในการฝึกขับถ่าย ดังนั้น ความใจดี สม่ำเสมอ และอดทนโดยทั่วไปในทุกๆ ด้านจึงเป็นกุญแจสำคัญ

7/7

เกี่ยวกับสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

ไม่ ปอมเมอเรเนียนสืบเชื้อสายมาจากเยอรมัน สปิตซ์ และแม้จะมีลักษณะคล้ายกันหลายประการ แต่เป็นคนละสายพันธุ์กัน ความแตกต่างที่สำคัญคือ ขนาด เมื่อเปรียบเทียบกัน โดยปกติแล้วปอมเมอเรเนียนจะมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของเยอรมัน สปิตซ์

ปอมเมอเรเนียนมักจะตื่นตัวสูงเสมอ มีความรู้สึกไวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวอย่างมาก และชอบบอกให้ทุกคนรับรู้ด้วย สุนัขเหล่านี้ยังมีแนวโน้มระแวงคนแปลกหน้าเล็กน้อยและอาจชอบส่งเสียงค่อนข้างมากเมื่อระแวงคนแปลกหน้าเช่นเดียวกัน การเข้าสังคมแต่เนิ่นๆ การฝึกลูกสุนัข และการใช้การส่งเสริมในเชิงบวกเพื่อสอนคำสั่ง "เงียบ" สามารถช่วยได้

ที่มา
  1. ศูนย์สัตวแพทย์แห่งอเมริกา https://vcahospitals.com/
  2. สารานุกรมสุนัขของโรยัล คานิน ฉบับปี 2010 และ 2020
  3. โรงพยาบาลสัตว์แบนฟิลด์ https://www.banfield.com/
  4. คู่มือผลิตภัณฑ์ BHN ของโรยัล คานิน
  5. American Kennel Club https://www.akc.org/

ชอบ และแบ่งปันหน้านี้